กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ กี่แคล ?

โคลอน

กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ กี่แคล ?

กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ (Pretz Colon Matcha) กี่แคล สายนับแคลอรี่อย่างเรา อยากจะรู้ว่า กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ จะสักแค่ไหนกัน มีกี่แคลอรี่กันนะ รับประทานเข้าไปแล้วเป็นอย่างไร มาค่ะวันนี้แอดแบรี่ จะแนะนำการเลือกทาน ต้องกินเท่าไหร่และออกกำลังกายแค่ไหน ว่าร่างกายของเราจะได้รับสารอาหาร พลังงานจากกูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ ดีต่อสุขภาพไหม ควรระวังอะไรบ้าง เราก็จะมีสุขภาพดี สดใสร่าเริง ทั้งร่างกายและจิตใจ เตรียมตัวให้พร้อม ไปลุยดูสารอาหารกับแอดแบรี่ กันเลยค่ะ

ข้อมูลทางโภชนาการของ กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ

กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ 1 กล่อง 46 กรัม มีแคลอรี่ 220 กิโลแคลอรี่

เพื่อนๆหลายๆคนคงต้องมานั่งปวดหัวนับแคล แถมยังไม่มั่นใจว่าเอ๊ะ… ฉันจะรับประทาน กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ ได้หรือเปล่าแล้วมัน จะมีผลต่อพุงน้อยๆน่ารัก หรือระดับน้ำตาลจะพุ่งปรี๊ดๆ เบาหวานกวักมือเรียกหยอยๆ รึเปล่านะ อย่ากังวลใจไปค่ะ วันนี้แอดแบรี่จะสำรวจตรวจสานอาหารให้เพื่อนๆ สบายใจได้ มาดูกันเลยค่ะ กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ เป็นยังไงบ้างนะ

กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ มีคาร์โบไฮเดรตสูงโดย 1 กล่อง สูงถึง 34.0 กรัม

โดยทั่วไปแล้ว ร่างกายจะย่อยคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคสเพื่อดูดซึมสู่กระแสเลือด และนำไปใช้เป็นพลังงานสำหรับเซลล์ เนื้อเยื่อ รวมทั้งอวัยวะต่าง ๆ ส่วนน้ำตาลที่เหลือจากการใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ จะถูกสะสมไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ เพื่อนำออกมาใช้ในยามจำเป็น คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (Simple Carbs) หรืออาจเรียกว่าน้ำตาลเชิงเดี่ยว มักพบในน้ำตาลที่ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex Carbs) คืออาหารจำพวกแป้งและเส้นใยอาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์จากธัญพืชอย่างขนมปัง

กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ มีน้ำตาลสูงโดย 1 กล่อง มีน้ำตาลสูงถึง 20.0 กรัม

การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาวะอ้วน ภาวะการดื้อต่ออินซูลิน ความดันโลหิตสูง หรือกระทั่งโรคหัวใจ ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงพยายามรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลให้น้อยลง แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารบางชนิดก็มีน้ำตาลแอบซ่อนอยู่ในปริมาณมากอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายมีน้ำตาลมากเกินกว่าความต้องการโดยไม่รู้ตัว

ตารางออกกำลังเพื่อกำจัด กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ จำนวน 220 กิโลแคลอรี่

หากเมตาโบลิซึมแย่ลงเราก็อ้วนได้ง่าย

เมตาโบลึซึม (Metabolism) คือกระบวนการย่อย ดูดซึม การสังเคราะห์ การแตกตัว และขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งสารอาหารจะถูกส่งไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกายและเปลี่ยนเป็นพลังงาน เพื่อให้ร่างกายทำงานได้เป็นอย่างปกติ เมื่อเมตาโบลิซึมไม่ดี ทำอย่างไรก็ผอมลงยาก และอาจจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่จะนำโรคภัยต่างๆ ตามมาด้วยเช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเรสเตอรอล

อาการเหล่านี้อย่าละเลยอัตราการเผาผลาญเริ่มแย่ลงแล้ว

1. หลับไม่สนิท ยิ่งนอนแล้วก็ยิ่งเหนื่อยล้า

แม้ว่าตอนกลางวันจะลุยกับงานแสนเหนื่อย และเครียด สักแค่ไหน แต่ตอนกลางคืนก็ยังนอนไม่หลับ หรือหลับก็ไม่สนิท ตื่นขึ้นมาก็ยังเพลียประหนึ่งว่ายังไม่ได้พักผ่อน กลางวันก็รู้สึกง่วง เพลียวนไป สาเหตุเกิดจากการออกกำลังกายน้อยไป ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญไม่ดี จิตใจและร่างกาย เหนื่อยล้าตึงเครียด ส่งผลให้นอนไม่หลับกระสับกระส่าย เหนื่อยล้าได้ง่าย

2. ไม่มีแรงทำงาน และเหนื่อยล้าง่าย

ถ้าหากคุณเป็นคนประภท “เข้างานหมดแรง เลิกงานเริงร่า” อาการเหล่านี้นอกจากมาจากเจ้านายของคุณแล้ว สัญญาณเหล่านี้เตือนว่า การเผาผลาญของคุณกำลังแย่ลง เราควรจะต้องรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่หากยิ่งนอนยิ่งเหนื่อยย่อมมีผลกระทบต่อการทำงาน ต้องเร่งเพิ่มอัตราเมตาโบลิซึมนะคะ

3. พละกำลังถดถอย แค่เดินก็เหนื่อยหอบ

เวลาเดินไม่เท่าไหร่คุณก็เหนื่อยหรือไม่ หรือแค่ขึ้นบันไดชั้นเดียวก็หอบแล้ว อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอัตราการเผาผลาญคุณเริ่มแย่ลง และเป็นสัญญาณเตือนภัย โรคต่างๆอีกด้วย หากพบว่าตัวเองมีอาการเหนื่อยหอบง่ายผิดปกติ ควรไปปรึกษาแพทย์นะคะ ไม่ควนปล่อยทิ้งไว้มองข้ามสัญญาณเตือนเหล่านี้

4. เจ็บปวด และเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด

หากคุณมีอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อ หรือปวดกระดูกบ่อยๆ อาจเป็นเพราะห่างไกลการออกกำลังกายค่ะ การละเลยเหล่านี้ทำให้ร่างพังดูแก่เร็ว อายุจริงอาจจะ 25 แต่พอไปตรวจอาจพบว่าคุณมีร่างกายของคนวัย 50 ได้นะคะ หากไม่ดูแลร่างกายตัวเองให้ดีๆแล้ว อัตราการเผาผลาญลดลง ก็เตรียมตัวเจอกับปํญหาใหญ่ได้เลยล่ะค่ะ

5. ผิวพรรณหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง หน้าแก่ก่อนวัย

หากแม่ค้าตามท้องถนน หรือคนทั่วไปเรียกว่า เจ๊ ทั้งที่วัยยังไม่เท่าไหร่ ก็อย่าไปโกรธเค้านะคะ ให้หมั่นดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย เลือกกินแต่ของดีมีประโยชน์ บำรุงผิว ทาครีมบำรุงห่างไกลแสงแดด พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน คงความหนุ่มความสาว สมวัยตลอดไปค่ะะ

6. บวมตามร่างกาย โดยเฉพาะรอบดวงตาและนิ้วมือ

หากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า ร่างกายหน้าตา นิ้วมือบวงเป่ง รองเท้าที่ใส่ได้พอดีกลับคับและกัดเท้า อาจเกิดจากเมตาบอลึซึมที่แย่ลงได้นะคะ การทำงานโดยนั่งนานเกินไป อาจทำให้เกิดการหมุนเวียนโลหิตไม่ดี ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำได้ ตองคอยหมั่นขยับร่างกาย และไม่ทำงานแค่ท่าเดียวไปนานๆค่ะ

7. แผลหายยาก ร่างกายฟื้นตัวช้า

สมัยก่อนมีแผลเล็กน้อย ไม่ต้องสนใจมากนักก็หายง่ายๆ ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เป็นอะไรนะ แผลเล็กนิดเดียวกลับใช้เวลาฟื้นตัวเป็นเดือน แผลหายช้าขึ้น มีผลต่อความสวยความงามภายนอก ทำให้จิตใจเป็นกังวล และความมั่นใจเป็นอย่างมาก แผลสิว รึก็หายยากเป็นจุดดำ ส่งผลต่อความมั่นใจต้องรีบแก้ไขโดยด่วนค่ะ

8. ซึมเศร้า เป็นทุกข์ เครียดและวิตกกังวลเสมอ

เมื่อบุคลิกร่าเริงแจ่มใส ค่อยๆเลือนหายไปจากใบหน้า เมื่อเจอเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็เริ่มรู้สึกเครียด และวิตกกังวล ร่างกายไม่ฟิต จิตใจหดหู่ทั้งวัน ต้องถอนหายใจบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้นอกจากต้องรีบกอบกู้จิตใจแล้ว ร่างกานเมตาโบลิซึมก็สมควร กู้คืนเป็นการด่วนด้วยนะคะ อย่าปล่อยทิ้งไว้นานค่ะหากนับนิ้วแล้วเพื่อนๆ มีอาการเหล่านี้เกินครึ่งก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ แอดหมูหยอง เตรียมวิธีเพิ่มเมตาบอลิซึมให้แล้วไปดู วิธีเพิ่มเมตาโบลึซึม ให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์ม ลดความอ้วนได้ง่าย ได้เลยค่ะ

บทส่งท้าย

กูลิโกะ โคลอนชาเขียวมัทฉะ กี่แคล กินแล้วอ้วนไหม บอกเลยกินได้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ว่าต้องรับประทานในปริมาณเหมาะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานให้ครบ 5 หมู่ให้ได้สารอาหารครบถ้วน จะทำให้เรามีร่างกายที่ฟิต ร่างกายแข็งแรง พร้อมลุยทุกที่ และวางแผนรับประทาน ตรวจสอบคุณค่าสารอาหาร ถ้าวางแผนการรับประทานอย่างดีแล้ว ก็เลือกกินได้เลยค่ะ

เรื่องน่าอ่าน:

คาร์ดิโอ 10 วิธีเบิร์นไขมันกระจาย

วิธีลดไขมัน 14 วิธีเพิ่มอัตราการเผาผลาญ

ดูสูตรอาหารและเคล็ดลับเด็ดๆได้ที่นี่

• Facebook
• Twitter
• Line